|
ทำไมต้องซื้อ พ.ร.บ. ก่อนต่อภาษีรถทุกครั้ง? | |
คุณผู้อ่านเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปีแต่ละครั้ง จำเป็นต้องซื้อ พ.ร.บ. ก่อนจึงจะชำระภาษีได้? บทความนี้จะพาไปหาคำตอบกัน กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องจัดทำประกันภัย พ.ร.บ.ประกันภัยรถยนต์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ประกันภัยภาคบังคับ (Compulsory Third Party Insurance) และประกันภัยภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance) โดยประกันภัยภาคสมัครใจเป็นการตกลงกันระหว่างผู้เอาประกันภัย และบริษัทประกันภัย เลือกซื้อตามความพึงพอใจของเจ้าของรถ จัดทำประกันภัยด้วยความสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับโดยกฎหมาย ซึ่งก็คือประกันชั้น 1, ชั้น 2, ชั้น 2+, ชั้น 3, ชั้น 3+ และอื่นๆ ที่ผู้ใช้รถคุ้นเคยดี ส่วนประกันภัยภาคบังคับ เป็นประกันภัยรถยนต์ที่กำหนดให้ผู้ครอบครองรถทุกคัน มีหน้าที่ต้องจัดให้มีการประกันภัยตามความคุ้มครองที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนดไว้ หากเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถไม่ทำประกันภัยตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนด จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของรถทุกคนที่จะต้องจัดทำ พ.ร.บ. ก่อนการชำระภาษีรถยนต์ประจำปีทุกครั้ง ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ปี 2566 จ่ายเงินกี่บาท?อัตราค่าเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. สำหรับรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลเป็นแบบคงที่ขึ้นอยู่กับประเภทรถ โดยมีรายละเอียดดังนี้ (ราคาทั้งหมดยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) รถยนต์โดยสาร
รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
พ.ร.บ. ให้ความคุ้มครองอย่างไรบ้าง?พ.ร.บ. จะให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบอุบัติเหตุจากการใช้รถได้อย่างทันท่วงที โดยไม่คำนึงถึงว่าบุคคลที่ประสบอุบัติเหตุดังกล่าวจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกแต่อย่างใด ซึ่งมีรายละเอียดความคุ้มครอง ดังนี้ 1. วงเงินค่าเสียหายเบื้องต้นโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด
2. วงเงินค่าเสียหายที่เกินกว่าค่าเสียหายเบื้องต้น (จะได้รับภายหลังจากการพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิด (ฝ่ายผิด))
ทั้งนี้ เจ้าของรถสามารถต่อ พ.ร.บ. พร้อมกับการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ โดยกำหนดให้รถทุกคันสามารถต่อภาษีประจำปีล่วงหน้าได้สูงสุด 90 วัน หรือ 3 เดือน อ้างอิง เคล็บลับยานยนต์ | |
ผู้ตั้งกระทู้ jkl :: วันที่ลงประกาศ 2023-02-16 10:20:31 |
Copyright © 2011 All Rights Reserved. |
Visitors : 38505 |